กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ชูแผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย ไอเฮลท์ตี้ (iHealthy) คุ้มครองสุขภาพครอบคลุมค่ารักษาทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก วงเงินความคุ้มครอง 100 ล้านบาท พร้อมบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ผ่านออนไลน์
นางภควิภา เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายลูกค้า บริษัท กรุงไทย - แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ลูกค้าจะให้ความสนใจกับแบบประกันสุขภาพ มากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งบริษัทได้นำเสนอกแผนประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่คุ้มค่าโดยรวมทุกความคุ้มครองที่เรียกว่า “ไอเฮลท์ตี้ (iHealthy)” ที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก รวมถึงการทำเคมีบำบัด และการฉายรังสีสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง ตลอดจนการล้างไต และการรักษาโดยแพทย์ทางเลือก ซึ่งการรักษาพยาบาลเหล่านี้มักจะไม่ครอบคลุมในแผนคุ้มครองสุขภาพแบบดั้งเดิม
นอกจากนี้ แผนประกันสุขภาพ ไอเฮลตี้ ยังครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสําหรับการตั้งครรภ์ ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลทั่วโลก และครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 100 ล้านบาท และยังครอบคลุมการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ด้วย (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศในการให้บริการ “Telemedicine อยู่บ้านก็พบแพทย์ได้” เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการด้านต่างๆ ของทางโรงพยาบาลได้ อาทิ บริการรับคำปรึกษาจากแพทย์ผ่านทางโทรศัพท์ บริการเจาะเลือดถึงบ้านโดยพยาบาล และบริการจัดส่งยาถึงบ้าน เป็นต้น โดยบริการดังกล่าวมอบให้กับลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพของบริษัทฯ และมีประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ โดยท่านสามารถดูรายละเอียดชื่อโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ https://ktaxa.live/telemedicine-hospitals
ทั้งนี้บริษัทเตรียมจะออกบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ “เทเลเฮลท์ (Telehealth) หรือ โทรเวชกรรม” ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้บริการพบแพทย์ออนไลน์ ปรึกษาอาการเจ็บป่วยจากแพทย์โรงพยาบาลชั้นนำ เป็นบริการที่ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก ช่วยให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องรอคิวในการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพ และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกจากบ้านให้กับลูกค้า พร้อมทั้งมีบริการจัดส่งยาถึงบ้านหลังจากได้รับการปรึกษาจากแพทย์
“โดยบริการเทเลเฮลท์มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการใช้บริการที่โรงพยาบาล เนื่องจากไม่มีค่าบริการโรงพยาบาล และค่าบริการพยาบาลการนำเสนอทางเลือกในการให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุดซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ในการมุ่งเน้นการมีลูกค้าเป็นที่หนึ่ง หรือ Customer First”
นางภควิภา กล่าวว่า สำหรับในปี 2563 ธุรกิจประกันชีวิตยังคงต้องเผชิญกับความกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศได้เผชิญกับปัจจัยลบอันเป็นผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ไปกับปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และการนำเงินบางส่วนไปใช้ชำระหนี้ภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกระทบด้านภูมิศาสตร์ ภาวะภัยแล้ง ภาวะการว่างงาน ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลมากขึ้นเป็นลำดับความต้องการของผู้บริโภคที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตต้องมีการปรับตัว และมีการลงทุนเกี่ยวกับนวัตกรรมต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมกับ Digital disruption นอกจากนี้การที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็เป็นอีกปัจจัยที่ท้าทายและส่งเสริมธุรกิจในขณะเดียวกัน โดยส่งผลให้ความต้องการด้านการประกันสุขภาพ รวมถึงนวัตกรรมและการบริการที่เกี่ยวข้องเติบโต และเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น
โดยภาพรวมของธุรกิจประกันชีวิตในครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจชะลอตัว ค่ารักษาพยาบาลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นทุกปีตามเงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาล หรือ Medical inflation รวมถึงวิวัฒนาการทางการแพทย์ ตลอดจนการตระหนักรู้ของประชาชนจากภาวะโรคอุบัติใหม่ หรือการแพร่กระจายของโรค ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคในการซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพเพื่อได้รับความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนเงินผลประโยชน์ รวมถึงความคุ้มครองโรคร้ายแรงต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ภาคธุรกิจก็มีการปรับตัว และคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ผู้ขาย ในช่วงภาวะที่มีความเสี่ยงอันเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคที่ทำให้ไม่สามารถพบปะกันได้ เช่น การขายประกันรูปแบบใหม่ ผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Face to Face รวมทั้งการให้บริการทางด้าน โทรเวชกรรมหรือ Telemedicine ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยปรึกษาปัญหาสุขภาพได้อย่าง real time
“กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ตระหนักดีว่าลูกค้ามีความต้องการด้านประกันชีวิต และประกันสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบประกันสุขภาพ และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการเรื่องการเว้นระยะห่างหรือ Social Distancing”
ดังนั้น บริษัทฯ จึงนำเสนอทางเลือกในการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันของบริษัทฯ ในสองช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ผ่านการซื้อแบบ Face to Face หรือ Non Digital Face to Face เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งบริษัทได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น “แอดไวเซอร์โซน (Advisor Zone)” เพื่อให้ฝ่ายขายส่งเอกสารผ่านระบบดิจิทัล มาตั้งแต่ปี 2560
โดยในปีนี้บริษัทได้มีการพัฒนาต่อยอดจากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว เพื่อรองรับการซื้อขายประกันโดยผ่านระบบดิจิทัลอย่างครบวงจร อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบาย และสนองตอบความต้องการของลูกค้าผ่านการขายทั้งแบบ Digital Remote Selling และแบบวิธีการขายดั้งเดิม โดยฝ่ายขายสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบด้วย
"แบบดั้งเดิม" - Google News
June 17, 2020 at 01:32PM
https://ift.tt/30TlKEM
กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตลุยตลาดสุขภาพ ชูแผน iHealthy เหมาจ่ายวงเงิน 100 ล้านบาท - การเงินธนาคาร
"แบบดั้งเดิม" - Google News
https://ift.tt/36f79nS
Bagikan Berita Ini
0 Response to "กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตลุยตลาดสุขภาพ ชูแผน iHealthy เหมาจ่ายวงเงิน 100 ล้านบาท - การเงินธนาคาร"
Post a Comment